ชีวิตเรามีองค์ประกอบหลายส่วนที่ประกอบกัน มีกลไกขับเคลื่อนอย่างละเอียดอ่อนเพื่อการเคลื่อนไหว มีเรือนร่างที่ประกอบด้วยอวัยวะหลายส่วน มีความคิด ความรู้ ความสามารถหลากหลาย มีอารมณ์ มีมโนธรรมสำนึกผิดชอบ มีสติ และมีความสามารถเลือกและตัดสินใจ ฯลฯ
ผมเคยตั้งคำถามสามข้อให้เพื่อนร่วมโลกได้คิด “จุดกำเนิดมนุษย์มาจากไหน” ถ้ามนุษย์เป็นเพียงผลแห่งความบังเอิญชีวิตมนุษย์จะไม่มีจุดหมายปลายทางต่างคนต่างกำหนดชะตากรรมของตนเองคำถามต่อมาคือ “เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพื่ออะไร” เราคงตอบไม่ยากถ้าเราเชื่อว่ามนุษย์เป็นผลของความบังเอิญ แต่ถ้าเราเชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างมนุษย์ เราจำเป็นที่จะต้องทราบว่า พระผู้สร้างที่สร้างมนุษย์อย่างอัศจรรย์ มีวัตถุประสงค์อะไร มนุษย์ต้องค้นหาพระประสงค์ของพระเจ้า และดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับพระประสงค์นั้น ชะตากรรมของเขาจบอยู่ที่ได้ใช้ชีวิตตามพระประสงค์ของพระผู้สร้าง คำถามที่สาม คำถามสุดท้าย “ในเมื่อคนเราต้องตาย ยุติบทบาททางกายภาพบนโลกนี้วันใดวันหนึ่ง หลังจากนั้นจะไปไหน” ผู้ที่เชื่อในความบังเอิญก็จะบอกว่าไม่จำเป็นต้องรู้ มันมาเองมันก็จะจบแล้วแต่จบไม่ต้องไปกังวล แต่สัญชาตญาณลึกๆ ในมนุษย์ไม่ได้เชื่อเช่นนั้น เขารู้ภายในตัวเอง ชีวิตหลังความตายยังมี และมนุษย์เราต้องรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของตนหลังความตาย ถ้าจะถามคริสเตียนที่ได้บังเกิดใหม่ มีชีวิตเดินกับพระเจ้า เขาทราบแน่ชัดว่าชีวิตหลังความตายจะได้ไปอยู่กับพระเจ้า
ชีวิตบนแผ่นดินโลกขณะนี้เราเป็นเหมือนนักท่องเที่ยว เป็นเพียงทางผ่าน อย่าให้เราลุ่มหลงกับค่านิยมจอมปลอม อย่าหลงระเริงกับรสชาติของสังคม แต่ให้เรารู้จักระงับใจ ระงับตัณหาแห่งโลกีย์ มุ่งทำความดีมากขึ้นในปีใหม่
ขอให้มีความมุ่งมั่น ทำตัวเองให้ดีขึ้นทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นมากขึ้น และทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อพระคริสต์ให้มากขึ้น