เป็นการง่ายที่จะสรรเสริญพระเจ้าในยามสุขสบาย ยามสงบ ยามมั่งมี ยามปลอดภัย ยามมีสุขภาพดี แต่ยามที่อาจมีผลกระทบกับเรามากที่สุดต่อความคิด จิตใจ และร่างกาย คือในขณะมีความทุกข์ เมื่อยากจน เมื่ออยู่ในอันตราย หรือเมื่อเจ็บป่วย เราจะยังคงสรรเสริญพระเจ้าหรือไม่?
การสรรเสริญพระเจ้าในยามสุขสบาย บ่อยครั้งเกิดขึ้นจากความปรารถนาขอบพระคุณพระเจ้า ต่อพระราชกิจที่พระองค์ได้ทรงกระทำเพื่อเราในปัจจุบัน หรืออาจเป็นการประกาศถึงความยิ่งใหญ่ ความสัตย์ซื่อของพระเจ้าในการอวยพรเรา ณ จุดใดจุดหนึ่ง
แต่การสรรเสริญพระเจ้าในยามทุกข์ยาก ให้ภาพที่ยาวไกลกว่านั้น เพราะเป็นการประกาศการวางใจ เนื่องจากเราได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าในอดีต และเห็นความสัตย์ซื่อของพระองค์เรื่อยมา เป็นระยะเวลานาน จนประสบการณ์ที่เรามีกับพระองค์นั้น ทำให้เราสามารถยืนหยัด สรรเสริญพระเจ้าได้ในยามยากลำบาก เพราะเรามั่นใจว่าพระองค์มีแผนการที่ดีในอนาคต เป็นความเชื่อ และเห็นด้วยตาฝ่ายวิญญาณว่า พระองค์ทรงกระทำกิจของพระองค์อยู่ พระองค์ไม่ได้หลงลืมเรา และประสบการณ์ที่เราเคยมีกับพระองค์เรื่อยมานั้น บอกเราว่า พระองค์จะช่วยเราในเวลาของพระองค์อย่างแน่นอน
การสรรเสริญพระเจ้าในยามทุกข์ยากนี้ นำความอัศจรรย์ใจ มาสู่ผู้ที่ยังไม่รู้จักกับพระเจ้าเป็นอย่างยิ่ง เพราะผู้ที่ไม่รู้จักพระเจ้าจะสรรเสริญพระเจ้าของเขาเมื่อเขาได้รับพร มั่งมี เจริญรุ่งเรือง หรือสุขสบาย คำถามของพวกเขาคือ “พระเจ้าของคริสเตียนเป็นผู้ใดเล่า ที่แม้ว่าพวกเขาจะทุกข์ยาก แต่พวกเขาก็ยังคงสรรเสริญพระเจ้าของเขาอยู่มิได้ขาด?”
การสรรเสริญพระเจ้าในยามยาก เป็นการประกาศจุดยืนของเราในปัจจุบัน และเป็นการประกาศชัยชนะของพระเจ้าในอนาคตด้วย ให้เราสรรเสริญพระเจ้าในยามนี้ เพื่อคนทั้งปวงจะอัศจรรย์ใจในพระเจ้าของเรา
ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระเจ้าตลอดไป สดุดี 34.1